4 สุดยอดสาวงามแดนมังกร [Part 1]


        4 สุดยอดสาวงามในประวัติศาสตร์จีน (四大美人 sì dà měi rén) คือสตรี 4 นางที่ได้ชื่อว่ามีความงดงามที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน ซึ่งทั้ง 4 นางนี้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองพลิกผัน ถึงขั้นอาณาจักรล่มสลายหรือเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ รายชื่อทั้ง 4 สาวงามเรียงตามช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ ได้แก่ ซีซือ หวังเจาจวิน เตียวเสี้ยน หยางกุ้ยเฟย ทั้ง 4 นางได้รับการยอมรับในเรื่องความงามไปทั่วทั้งแผ่นดินจีน จนมีโคลงกลอนบรรยายความงามของสาวงามทั้ง 4 ไว้ดังนี้

沉鱼落雁闭月羞花
(chén yú luò yàn, bì yuè xiū huā)


        โคลงกลอนดังกล่าวนี้ถูกแปลเป็นภาษาไทยโดย อาจารย์ถาวร สิกขโกศล ผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมไทย-จีน ไว้ว่า


มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา
จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง


 photo 4 �1_zpscgs7qquj.jpg


ขอบคุณภาพประกอบจาก - http://blog.sina.com.cn/s/blog_4ed7e54e0100axmg.html


         ซีซือ (西施 Xī Shī) หรือ ไซซี ในภาษาจีนแต้จิ๋ว เจ้าของฉายา “มัจฉาจมวารี” เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่า ขณะที่ซีซือไปซักผ้าที่ลำธาร เหล่าฝูงปลาได้พบเห็นกับใบหน้าของนางต่างพากันตกตะลึงกับความงาม เอาแต่จ้องจนลืมว่ายน้ำ ทำให้จมน้ำลงไปโดยไม่รู้ตัว บางตัวก็หมดเรี่ยวแรง โดนสายน้ำพัดไปชนกับโขดหิน ซีซือเกิดในยุคชุนชิว หรือเมื่อประมาณ 506 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาที่ถูกเก็บมาเลี้ยงและถูกสอนความรู้ต่าง ๆ มากมายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือล้างแค้นหรือไส้ศึกตามกลยุทธ “กลสาวงาม” โดยส่งตัวไปเป็นเครื่องบรรณาการให้กับอ๋องฟูชา เจ้าแห่งแคว้นอู่ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอยางดี เพราะอ๋องฟูชาหลงใหลในตัวซีซือเป็นอย่างมากจนบ้านเมืองอ่อนแอและล่มสลายในเวลาต่อมา
 

 photo 4 �2_zpsrwcsafh3.jpg


ขอบคุณภาพประกอบจาก - http://xishimishi.h.baike.com/article-246178.html


        นอกจากนั้น ซีซือยังได้รับการยอมรับในเรื่องสติปัญญา เนื่องจากชนะการปะทะคารมกับ ซุนวู หรือ ซุนอู่ นักปราชญ์ชื่อดังด้านพิชัยยุทธ์ ทั้งคู่ได้โต้เถียงกันในหัวข้อ “ความจำเป็นของผู้หญิงกับกองทัพ” และซีซือก็ชี้ให้ซุนวูเห็นว่า หากปราศจากผู้หญิงแล้ว แม้ชนะสงคราม บ้านเมืองก็ไม่อาจเดินต่อไปได้ เพราะไม่สามารถสืบทายาทได้ รวมถึงแขวะซุนวูว่าที่กล่าวถึงผู้หญิงอย่างเสีย ๆ หาย ๆ อาจเป็นเพราะมารดาของเขาคงไม่ใช่ผู้หญิงกระมัง ทั้งยังยกประวัติศาสตร์และเหตุผลอีกมากมายมาตอบโต้ซุนวู ทำให้เขาเองถึงกับจนมุมและเลิกพูดจาดูถูกผู้หญิงนับจากนั้น

         หวังเจาจวิน (王昭君 Wánɡ Zhāojūn) เจ้าของฉายา “ปักษีตกนภา” จากเรื่องเล่าที่ว่า เมื่อเหล่าฝูงนกได้เห็นโฉมหน้าของหวังเจาจวินเข้าถึงกับตกตะลึงในความงาม จนร่วงตกลงมาจากท้องฟ้า หวังเจาจวินเกิดในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก หรือเมื่อประมาณ 55 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมื่อเข้าสู่ช่วง 39 ปีก่อนคริสต์ศักราช นางถูกเกณฑ์ให้ไปเข้าวังหลวงเพื่อเป็นนางกำนัลแก่จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้เช่นเดียวกับหญิงสาวคนอื่น ๆ แต่หลังจากเข้าวังหลวงแล้ว หวังเจาจวินก็ไม่มีโอกาสได้พบกับองค์จักรพรรดิเลยเนื่องจากพระองค์จะเลือกนางสนมใหม่จากภาพวาด ซึ่งภาพวาดของของนางไม่ได้ถ่ายทอดความงามที่แท้จริงออกมาเลย
 

 photo 4 �3_zpsp0kdaqby.jpg


ขอบคุณภาพประกอบจาก - http://www.5011.net/lishi/miwen/201502/14/29175.html


        ต่อมาในช่วง 32 ปีก่อนคริสต์ศักราช หูหานเสีย ผู้นำเผ่าซยงหนู หรือ ซงหนู ได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและเจรจาสงบศึก ซึ่งทางหูหานเสียถือโอกาสขอพระราชทานพระธิดาขององค์จักรพรรดิไปเป็นภรรยา แต่องค์จักรพรรดิกลับเรียกนางกำนัลที่ยังไม่ได้ถูกคัดเลือกเป็นนางสนมออกมา 5 นางและให้เขาเลือก 1 นางจากนางกำนัลเหล่านั้น ซึ่งใน 5 นางนั้นก็มี หวังเจาจวินรวมอยู่ด้วย เมื่อนางปรากฏโฉมออกมา ผู้คนต่างก็พากันตกตะลึงในความงามรวมไปถึงองค์จักรพรรดิเอง นอกจากนั้น หวังเจาจวินยังได้ขออาสาไปเป็นภรรยาของหูหานเสียเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี ทำให้องค์จักรพรรดิทรงรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก และต้องย้อนกลับไปพิจารณาวิธีคัดเลือกนางสนมจากภาพวาดกันใหม่

        หลังจากหวังเจาจวินกลายเป็นภรรยาของหูหานเสีย ก็ช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมของชาวฮั่นแก่ชาวซยงหนู และช่วยเกลี้ยกล่อมไม่ให้ทำสงครามเพื่อความสงบสุขของประชาชน จนกระทั่งหูหานเสียเสียชีวิตลง นางก็ได้ทำตามประเพณีของชาวซยงหนูคือแต่งงานใหม่กับพี่ชายคนโตของหูหานเสียเพื่อรักษาสัมพันธไมตรีระหว่างชาวฮั่นและชาวซยงหนูเอาไว้เช่นเดิม สันติภาพจึงดำเนินต่อเนื่องมายาวนานถึง 60 ปี

        โปรดติดตามประวัติของ
2 สุดยอดสาวงามแห่งแผ่นดินจีนที่เหลือได้จากบทความในครั้งถัดไป


เอกณัฏฐ์ สวัสดิ์หิรัญ TPA Press