ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง


        ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีที่มาจากหลายประเทศ ทั้งจากอินเดีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งมีนัยว่าอาจเป็นปีศาจตนเดียวกัน คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการเผยแพร่วัฒนธรรมตามเส้นทางสายไหม (シルクロード) และถ่ายทอดไปยังประเทศญี่ปุ่น
 

 photo E400E2A0E490E190E170E320E070E2A0E320E220E440E2B0E210_wikipeiaorg_zpsb110ec6e.png


เส้นทางสายไหม
ขอบคุณภาพจาก
: wikipedia.org


          ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ในภาษาญี่ปุ่นมาจากคำศัพท์ว่า 九尾の妖狐 (Kyuubi no Yooko) หากแปลตามตัวอักษรคันจิจะได้ว่า แปลว่า (เลข) เก้า แปลว่า หาง แปลว่า มีเสน่ห์ น่าหลงใหล และ แปลว่า สุนัขจิ้งจอก คำว่า 妖狐 เมื่อนำมารวมกันจะได้หมายความว่า ปีศาจจิ้งจอกที่สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้

        ตามความเชื่อนั้น ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเกิดจากสุนัขจิ้งจอกที่อยากเป็นมนุษย์จึงบำเพ็ญเพียรเพื่อให้มีวิชาอาคม และเมื่อบำเพ็ญเพียรครบ 100 ปี จะมีหางเพิ่มขึ้นมาอีก 1 หาง และเมื่อบำเพ็ญเพียรจนมีครบ 9 หาง จะมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้าเป็นอย่างมาก และสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้

 photo tamamomae_devianartnet_zps2f5c909b.jpg


ขอบคุณภาพจาก : devianart.net


         ตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางในประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า ปีศาจตนนี้ได้แฝงตัวอยู่ในราชสำนักของญี่ปุ่นในรัชสมัยของจักรพรรดิโทบะ (鳥羽天皇 Toba Tennoo) หลังจากที่หลบหนีมาจากประเทศอินเดียและประเทศจีน โดยแฝงตัวมาในร่างของหญิงงามนามว่า ทามาโมะ โนะ มาเอะ  玉藻の前 (Tamamo no Mae) พระสนมของจักรพรรดิโทบะ ผู้ซึ่งทำให้จักรพรรดิโทบะลุ่มหลงในความงามของนาง จนสุขภาพของจักรพรรดิโทบะทรุดโทรมลงทุกวัน จึงได้มีการอัญเชิญนักพรตมาทำพิธีปัดรังควาน ก็พบว่าในวังมีปิศาจจิ้งจอกเก้าหางสีทองแฝงตัวอยู่

        เมื่อความแตก ทามาโมะ โนะ มาเอะ จึงได้คืนร่างเป็นสุนัขจิ้งจอกสีทองตัวมหึมา มีเก้าหาง เหาะหนีไปบนท้องฟ้า กองทหารของจักรพรรดิโทบะได้ไล่ตามไปจนถึงที่บริเวณ
ภูเขานาสุ (那須岳 Nasu Dake) เกิดการต่อสู้กัน และสามารถสยบจิ้งจอกเก้าหางลงได้ กลายเป็นหินเซ็ชโชเซกิ (殺生石 Sesshoo Seki) ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

 photo Sessh14D0seki_nohtheartewordpresscom_zps6e00e0af.jpg


ขอบคุณภาพจาก : nohthearte.wordpress.com


เอกณัฏฐ์ สวัสดิ์หิรัญ TPA Press