Japan Tax Refund…ซื้อของถูกใจ ไร้ภาษี ที่ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการไปสัมผัสวัฒนธรรม การไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงตามจังหวัดต่าง ๆ หรือการไปชิมอาหารรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การช็อปปิ้ง ซึ่งสินค้าของประเทศญี่ปุ่นนั้นต้องยอมรับเลยว่า "น่าสอยกลับบ้านมาก ๆ !!"
ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของเล่น ของใช้ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ช่างล่อตาล่อใจเสียเหลือเกิน จนบางครั้งหลายคนเผลอหน้ามืดตามัวซื้อมาซะเยอะแยะ แต่ได้ชื่อว่าขาช็อปแล้ว ต่อให้กระเป๋าจะเต็มจนยัดไม่ลงก็ไม่มีอะไรสามารถมาหยุดยั้งได้ ต้องซื้อวนไปจนกว่ากระเป๋าสตางค์จะแบนกันไปข้างหนึ่ง ! แต่ถึงจะหน้ามืดตามัวกันขนาดไหน ก็ต้องดึงสติกันไว้สักหน่อย จะซื้อของทั้งทีต้องให้คุ้มค่าและคุ้มราคา วันนี้เลยมีวิธีซื้อของแบบ Japan Tax Refund มาแนะนำกันจ้า ซึ่งวิธีนี้รับรองว่าประหยัดเงินไปได้เยอะแน่นอน
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://tokyocheapo.com/shopping-2/tax-free-shopping-japan/
Japan Tax Refund คือ การซื้อของแบบงดเว้นภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เพราะโดยปกติสินค้าทุกอย่าง นอกจากจะมีราคาตามป้ายอยู่แล้ว ยังคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 8% ซึ่งเมื่อซื้อสินค้าก็ต้องบวกค่าภาษีดังกล่าวเข้าไปด้วย แต่สำหรับ Tax Refund หรือการงดเว้นภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวนั้น ทางญี่ปุ่นเริ่มใช้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 โดยผู้ที่สามารถซื้อสินค้าแบบงดเว้นภาษีได้คือ นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่มาอยู่ประเทศญี่ปุ่นในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน เท่านั้น
ขอบคุณรูปภาพจาก - http://tax-freeshop.jnto.go.jp/eng/index.php
สินค้าที่สามารถซื้อแบบงดเว้นภาษีได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ยา เครื่องสำอาง อาหาร และเครื่องดื่ม โดยเมื่อรวมราคาสินค้าที่ซื้อทั้งหมดแล้วจะต้องไม่ต่ำกว่า 5,000 เยน แต่ไม่เกิน 500,000 เยน และ 2) กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้อง กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า และอื่น ๆ โดยเมื่อรวมราคาสินค้าที่ซื้อแล้วจะต้องไม่ต่ำกว่า 5,000 เยน และที่สำคัญคือ ไม่สามารถนำสินค้าทั้งสองกลุ่มนี้มารวมกันได้นะจ๊ะ ต้องกลุ่มใครกลุ่มมันเท่านั้นจ้า
ขอบคุณรูปภาพจาก
http://www.homemate-research-drugstore.com/dtl/00000000000000513449/
ส่วนวิธีการทำ Tax Refund ก็ง่ายมาก ๆ มีแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ก่อนอื่นให้หาร้านหรือห้างสรรพสินค้าที่มีป้ายหรือสัญลักษณ์ที่เขียนว่า “Tax Refund” หรือ “Tax-Free” อย่างเช่นในภาพ เมื่อเจอป้ายแล้วก็เข้าไปช็อปเลยจ้า หลังจากที่ซื้อของจนพอใจแล้ว ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการ Tax Refund โดยส่วนมากจะแบ่งเป็น 2 วิธีคือ
ขอบคุณรูปภาพจาก - https://shikiho.jp/tk/news/print/0/79981
วิธีที่ 1 เมื่อซื้อสินค้าเสร็จแล้ว ให้แจ้งพนักงานตอนคิดเงินว่าต้องการทำ Tax Refund จากนั้นก็ยื่นพาสปอร์ตของเราให้พนักงานดู รอให้พนักงานดำเนินการ เมื่อเรียบร้อยแล้วเราก็จะสามารถจ่ายเงินตามราคาสินค้าจริงโดยไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเลยสักเยนเดียว แฮปปี้ไหมล่าาา (ส่วนมากจะเป็นร้านขายยาหรือร้านค้าขนาดเล็กทั่วไปนะจ๊ะ)
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://asia.nikkei.com/Business/Consumers/Foreign-tourists-changing-Japan-s-retail-landscape
วิธีที่ 2 เมื่อซื้อสินค้าและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว (ค่าสินค้ารวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 8%) ให้เรานำใบเสร็จและสินค้าที่ซื้อมาพร้อมพาสปอร์ตของเราไปยื่นที่เคาน์เตอร์ซึ่งจัดโซนแยกไว้สำหรับทำ Tax Refund โดยเฉพาะ รอเจ้าหน้าที่ดำเนินการสักครู่ เมื่อเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะคืนเงินส่วนที่เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม 8% ให้จ้า ง่ายนิดเดียวเองเนอะ (ส่วนมากจะเป็นห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าขนาดใหญ่นะจ๊ะ)
แต่ควรระวังไว้ว่า การทำ Tax Refund ต้องทำหลังจากที่ซื้อสินค้าทันที ไม่ใช่ว่าซื้อสินค้าวันนี้แล้วเกิดลืมขึ้นมา ไปขอภาษีคืนพรุ่งนี้ได้ไหมอะ ขอบอกว่าไม่ได้นะ อดแล้วอดเลยจ้า อีกข้อหนึ่งคือ เจ้าหน้าที่จะห่อสินค้าที่ทำ Tax Refund ให้อย่างดีเป็นพิเศษ เราไม่สามารถเปิดใช้หรือกินได้จนกว่าจะกลับประเทศบ้านเกิดเมืองนอน เผื่อในกรณีที่สนามบินมีการสุ่มตรวจขึ้นมา หากไม่พบสินค้าเนื่องจากถูกใช้หรือกินไปแล้ว จะต้องเสียภาษีส่วนต่างเพิ่มเติมนะจ๊ะ
สุธินี เทียนกุล TPA Press